เมื่อพูดถึงการฟื้นฟูใบหน้า ผู้ป่วยมักมีคำถามสำคัญว่า ควรเลือกทำเฟซลิฟต์หรือร้อยไหมดี? ทั้งสองวิธีนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับรูปหน้า แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องของเทคนิค การฟื้นตัว และที่สำคัญคือ ผลลัพธ์ในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการทำเฟซลิฟต์กับการร้อยไหม โดยเน้นเปรียบเทียบเรื่องความคงทนของผลลัพธ์และการดูแลรักษาหลังทำ

พื้นฐานของการทำศัลยกรรมดึงหน้า

การทำศัลยกรรมดึงหน้า หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า ริไทเดกโตมี (Rhytidectomy) เป็นหัตถการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมายาวนาน มีจุดประสงค์เพื่อยกกระชับและปรับผิวหน้ารวมถึงลำคอให้ตึงขึ้น โดยศัลยแพทย์จะทำแผลผ่าตัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่บริเวณรอบใบหูและไรผม จากนั้นจะยกกระชับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง พร้อมกับตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก ผลลัพธ์คือใบหน้าดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก และการสูญเสียความเต่งตึงที่เกิดขึ้นตามวัย

ผลลัพธ์ระยะยาวของการทำศัลยกรรมดึงหน้า

การทำศัลยกรรมดึงหน้าขึ้นชื่อเรื่องผลลัพธ์ที่ อยู่ได้นาน โดยมีเหตุผลดังนี้:

  1. ยกกระชับผิวถาวร: เนื่องจากเป็นการตัดผิวหนังส่วนเกินและจัดเรียงเนื้อเยื่อใหม่ ผลลัพธ์จึงถือว่าถาวร แม้ผิวจะยังคงเสื่อมสภาพตามอายุ แต่ใบหน้าที่ดูยกกระชับจะคงอยู่ได้นาน 10–15 ปี หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม การดูแลสุขภาพ และการดูแลผิวพรรณ

  2. ชะลอความชราอย่างค่อยเป็นค่อยไป: หลังทำศัลยกรรมดึงหน้า ผิวจะยังคงแก่ลงตามธรรมชาติ แต่จะช้ากว่าปกติ หลายคนพบว่าผิวยังคงดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ได้นานหลายปี และไม่เกิดความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยลึกเท่าเดิมก่อนทำ

  3. ความเสี่ยงสูงแต่ผลลัพธ์ชัดเจน: การทำศัลยกรรมดึงหน้าเป็นหัตถการที่ต้องผ่าตัด จึงมีความเสี่ยงมากกว่าการทำหัตถการแบบไม่ผ่าตัด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะ เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  4. การดูแลรักษาผลลัพธ์: แม้การทำศัลยกรรมดึงหน้าจะให้ผลลัพธ์ระยะยาว แต่การดูแลรักษาอาจต้องมีการเติมเต็มหรือทำหัตถการเสริม เช่น โบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขจุดเล็ก ๆ เพิ่มเติม ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจเลือกทำหัตถการเหล่านี้เพิ่มเติมหลังจาก 5–10 ปี เพื่อคงความอ่อนเยาว์ต่อเนื่อง

พื้นฐานของการร้อยไหม

ดึงหน้าเงี่ยง

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้ ไหมชนิดพิเศษ สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น ไหมที่ใช้ผลิตจากวัสดุที่เข้ากันได้กับร่างกาย โดยจะสอดผ่านจุดเล็ก ๆ บนผิวหนัง จากนั้นจะค่อย ๆ ดึงไหมเพื่อยกเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อย เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะดูดซึมไหมเหล่านี้และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ระยะยาวของการร้อยไหม

แม้ว่าการร้อยไหมจะเป็นทางเลือกที่ เจ็บน้อยกว่า การผ่าตัดดึงหน้า แต่ผลลัพธ์จะ อยู่ได้ชั่วคราว มากกว่า โดยในระยะยาว คุณสามารถคาดหวังสิ่งต่อไปนี้:

  1. ผลลัพธ์ระยะสั้น: หลังทำการร้อยไหม คุณจะเห็นผลการยกกระชับได้ทันที ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ผลลัพธ์นี้จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม พื้นที่ที่ทำ และลักษณะผิวของแต่ละบุคคล

  2. การกระตุ้นคอลลาเจน: ไหมจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ผลการยกกระชับจะ ลดลงตามเวลา เมื่อไหมละลายและการสร้างคอลลาเจนช้าลง

  3. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงถาวร: ต่างจากการผ่าตัดดึงหน้า การร้อยไหมจะไม่ตัดผิวหนังส่วนเกินหรือปรับโครงสร้างเนื้อเยื่อ ดังนั้นจึง ไม่มีผลถาวร ต่อการชะลอวัยของใบหน้า เมื่อเวลาผ่านไป ผิวจะกลับสู่สภาพเดิม และผลลัพธ์ที่ได้อาจค่อย ๆ จางหายไป

  4. พักฟื้นน้อย ดูแลรักษาง่าย: ข้อดีสำคัญของการร้อยไหมคือใช้เวลาพักฟื้นน้อยและมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่ำ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว ผู้รับบริการบางรายอาจเลือกทำซ้ำทุก 1–2 ปี เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้า

เปรียบเทียบผลลัพธ์ระยะยาว: แบบไหนเหมาะกับคุณ?

:

ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

เมื่อต้องเลือกระหว่างการดึงหน้า (Facelift) กับการร้อยไหม (Thread Lift) สิ่งสำคัญคือการพิจารณาเป้าหมายและความต้องการของคุณเอง มาดูผลลัพธ์ระยะยาวของทั้งสองวิธีในแต่ละด้านกันค่ะ:

1. ระยะเวลาของผลลัพธ์

1.
  • การดึงหน้า (Facelift): ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานมากกว่า 10 ปี ถือเป็นทางเลือกที่ให้ผลถาวรมากกว่า

  • การร้อยไหม (Thread Lift): ผลลัพธ์ชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ2 ปี และอาจต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ไว้

2. ระยะเวลาพักฟื้น

2.
  • การดึงหน้า (Facelift): เป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องใช้เวลาพักฟื้น2–4 สัปดาห์ โดยในช่วงแรกอาจมีอาการบวมและช้ำ

  • การร้อยไหม (Thread Lift): ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า ส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ในไม่กี่วันถึง 1 สัปดาห์ อาการบวมและช้ำมักน้อย

3. ลักษณะของผลลัพธ์

3.
  • การดึงหน้า (Facelift): ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและดูเป็นธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์และความสมดุลของใบหน้า ผลลัพธ์ยังคงเห็นได้ชัดเจนแม้ผ่านไปหลายปี

  • การร้อยไหม (Thread Lift): ผลลัพธ์ดูอ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหรือไม่ต้องการให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน

4. ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

4.
  • การดึงหน้า (Facelift): เนื่องจากเป็นการผ่าตัด จึงมีความเสี่ยงสูงกว่า เช่น การติดเชื้อ แผลเป็น หรือปัญหาจากการวางยาสลบ

  • การร้อยไหม (Thread Lift): แม้จะไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีความเสี่ยง เช่นไหมเคลื่อนที่ การติดเชื้อ หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงโดยรวมมักน้อยกว่าการดึงหน้า

5. ค่าใช้จ่าย

5.
  • การดึงหน้า (Facelift): ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเนื่องจากเป็นหัตถการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความชำนาญสูง แต่ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานอาจทำให้คุ้มค่าในระยะยาว

  • การร้อยไหม (Thread Lift): โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่เนื่องจากต้องทำซ้ำหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

วิธีไหนเหมาะกับคุณ?

การตัดสินใจเลือกระหว่างการดึงหน้า (Facelift) กับการร้อยไหม (Thread Lift) ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลหลายอย่าง เช่น เป้าหมายด้านความงามของคุณ งบประมาณ และระยะเวลาที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน คู่มือสั้น ๆ นี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น:

  • หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน และไม่กังวลกับระยะเวลาพักฟื้นหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การดึงหน้า (Facelift) อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ

  • หากคุณมองหาวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การร้อยไหม (Thread Lift) ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่อายุน้อยหรือผู้ที่ต้องการคงความสดใสโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

สิ่งสำคัญคือควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้า พูดคุยถึงความคาดหวัง และแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ที่ SoonPlus ศัลยกรรมตกแต่ง เราเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและสุขภาพระยะยาวของคุณ

บทสรุป: เลือกเส้นทางที่เหมาะกับคุณที่สุด

:

ทั้งการดึงหน้าและการร้อยไหมต่างก็มีข้อดีเฉพาะตัว การดึงหน้าให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากกว่า ส่วนการร้อยไหมเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ผลลัพธ์อยู่ชั่วคราวและใช้เวลาพักฟื้นน้อย สุดท้ายแล้ว ทางเลือกที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัว ระดับของความหย่อนคล้อยบนใบหน้า และระยะเวลาที่คุณต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่

หากคุณกำลังพิจารณาการฟื้นฟูใบหน้าและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เหมาะกับคุณที่สุด ลองนัดหมายปรึกษาส่วนตัวที่ SoonPlus ศัลยกรรมตกแต่ง ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา นำโดยคุณหมอซุนดง คิม พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจทุกทางเลือกสำหรับการเปลี่ยนแปลงใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ