หน้าหลัก / บทความ
เลเซอร์ vs. ขัดผิวกรด: แบบไหนดีกว่า?
หน้าหลัก / บทความ
เลเซอร์ vs. ขัดผิวกรด: แบบไหนดีกว่า?
ในโลกของการดูแลผิวสมัยใหม่ เลเซอร์ฟื้นฟูผิว และ การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี ถือเป็นสองวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งสองวิธีนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเล็กๆ รอยเหี่ยวย่น รอยแผลเป็นจากสิว หรือความเสียหายจากแสงแดด แต่แต่ละวิธีก็มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน แล้วคุณควรเลือกแบบไหนดี? วิธีไหนจะช่วยให้คุณมีผิวกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์อย่างที่ใฝ่ฝัน?
ที่ SoonPlus ศัลยกรรมตกแต่ง เราเข้าใจดีว่าผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลือกใช้เลเซอร์ฟื้นฟูผิวหรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีจึงขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาเฉพาะ และผลลัพธ์ที่คุณต้องการ เรามาทำความเข้าใจแต่ละวิธี เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
เลเซอร์รีจูวีเนชั่น คือการฟื้นฟูผิวด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ จุดประสงค์หลักคือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น และปรับเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์มีหลายประเภท โดยที่นิยมมาก ได้แก่ เลเซอร์ CO2 แบบ Fractional และ เลเซอร์เออร์เบียม (Erbium) ซึ่งแต่ละชนิดจะทำงานในชั้นผิวที่แตกต่างกัน ทั้งแบบลึกและแบบตื้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข
ในระหว่างการทำเลเซอร์ฟื้นฟูผิว แสงเลเซอร์จะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง โดยจะทำหน้าที่ทั้งระเหยเซลล์ผิวที่เสียหายออก หรือกระตุ้นชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ที่อยู่ลึกลงไป กระบวนการนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ด้วยเหตุนี้ เลเซอร์ฟื้นฟูผิวจึงเหมาะสำหรับ:
ลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
ปรับผิวให้เรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอ
รักษาผิวที่ถูกแสงแดดทำร้ายและจุดด่างดำ
ลดรอยแผลเป็นจากสิว
กระชับผิวที่หย่อนคล้อย
เลเซอร์ฟื้นฟูผิวมักเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ระยะยาว เพราะการกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลปัญหาผิวอย่างล้ำลึกและเห็นผลชัดเจน
การ ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peel) เป็นการดูแลผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยจะใช้สารเคมีทาลงบนผิวหนัง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก และกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรงและดูสุขภาพดีขึ้น การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ตามความลึกของการผลัดเซลล์ผิว ดังนี้:
ผลัดเซลล์ผิวแบบตื้น (Superficial Peels หรือ Light Peels) – ช่วยขจัดเฉพาะผิวชั้นบนสุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำหรือจุดด่างดำเล็กน้อย
ผลัดเซลล์ผิวแบบกลาง (Medium Peels) – สารเคมีจะซึมลึกขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ริ้วรอย หรือผิวที่ถูกแสงแดดทำรุนแรงในระดับปานกลาง
ผลัดเซลล์ผิวแบบลึก (Deep Peels) – สารเคมีจะซึมลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยลึก แผลเป็น หรือจุดด่างดำจากอายุที่เห็นชัดเจน
ระหว่างการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี จะมีการทาสารละลายพิเศษลงบนผิวหนัง (โดยปกติจะมีส่วนผสมอย่างกรดไกลโคลิก กรดซาลิไซลิก หรือกรดไตรคลอโรอะซิติก) สารละลายนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออก เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการผลัดเซลล์ผิว คุณอาจเห็นผลลัพธ์ดังนี้:
ปรับผิวให้เรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอ
ลดจุดด่างดำและฝ้ากระจากอายุ
ช่วยรักษาสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ลดเลือนริ้วรอยและเส้นบางๆ บนใบหน้า
ทำให้ผิวที่หยาบกร้านดูเรียบเนียนขึ้น
แตกต่างจากการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์ การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีจะเน้นการผลัดเซลล์ผิวเป็นหลัก ไม่ได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยตรง อย่างไรก็ตาม การผลัดเซลล์ผิวแบบลึกสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวใหม่ได้เช่นกัน
การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์: หากคุณมีปัญหาผิวลึก เช่น รอยแผลเป็นจากสิวลึก, ผิวเสียจากแสงแดดอย่างรุนแรง หรือ ริ้วรอยแห่งวัยในระดับปานกลางถึงรุนแรง การรักษาด้วยเลเซอร์อาจเห็นผลได้ดีกว่า นอกจากนี้ เลเซอร์ชนิด Fractional ยังสามารถใช้กับ ผิวสีเข้ม ได้อย่างปลอดภัยกว่าการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีแบบดั้งเดิม
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: เหมาะสำหรับปัญหาผิว ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น จุดด่างดำตื้นๆ, ริ้วรอยเล็กๆ และ ผิวไม่เรียบเนียน นอกจากนี้ยังช่วยรักษา สิวเล็กน้อย ได้ดี แต่หากคุณมีรอยแผลเป็นจากสิวหรือริ้วรอยลึก การใช้เลเซอร์อาจเหมาะสมกว่า
การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์: ระยะเวลาพักฟื้นขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ เช่น เลเซอร์ CO2 อาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 1 สัปดาห์หรือมากกว่า โดยอาจมีอาการผิวแดง ลอก และบวม ส่วนเลเซอร์ที่ทำงานตื้นกว่า เช่น Fraxel จะใช้เวลาฟื้นฟูสั้นกว่า ประมาณ 3-5 วัน
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: การผลัดเซลล์ผิวแบบตื้น แทบไม่ต้องพักฟื้น อาจมีผิวแดงหรือผิวลอกเล็กน้อยไม่กี่วัน ส่วน การผลัดเซลล์ผิวระดับกลางและลึก จะมีอาการบวม สะเก็ด และผิวลอกชัดเจน ใช้เวลาฟื้นฟู 1-2 สัปดาห์ ยิ่งลึกยิ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์: มักให้ผลลัพธ์ที่ อยู่ได้นานกว่า เพราะเลเซอร์จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลึกในผิว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ในไม่กี่สัปดาห์ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: ผลลัพธ์จะอยู่ได้หลายเดือน โดยเฉพาะหากเป็นการผลัดเซลล์ผิวลึก แต่เนื่องจากเน้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ผลลัพธ์อาจไม่คงทนเท่าการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์ โดยเฉพาะหากยังมีปัญหาผิวหรืออายุผิวที่ดำเนินต่อเนื่อง
การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์: การทำเลเซอร์อาจรู้สึกไม่สบาย โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ทำงานลึก ผู้เข้ารับบริการมักจะรู้สึกร้อนที่ผิว จึงมักมีการทายาชาก่อนทำ และบางเครื่องจะมีระบบทำความเย็นเพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: ความรู้สึกขณะทำจะแตกต่างกันไป การผลัดเซลล์ผิวแบบตื้น อาจรู้สึกยิบๆ หรือระคายเคืองเล็กน้อย ส่วน การผลัดเซลล์ผิวลึก อาจรู้สึกเจ็บมาก ในกรณีนี้อาจต้องใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับร่วมด้วย
การฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์: โดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่า และอาจต้องทำหลายครั้งตามเป้าหมายที่ต้องการ แต่เมื่อทำครบคอร์ส ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน จึงไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: มักมีราคาย่อมเยากว่า และอาจต้องทำ หลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยเฉพาะหากเลือกแบบตื้น ส่วนการผลัดเซลล์ผิวลึกจะมีราคาสูงกว่าแต่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในครั้งเดียว
คำตอบขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน ระยะเวลาที่คุณสามารถใช้ในการพักฟื้น และเป้าหมายด้านความงามของคุณเอง นี่คือแนวทางเบื้องต้นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น:
หากคุณต้องการ ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เห็นผลระยะยาว และมีปัญหาผิวที่ลึก เช่น ริ้วรอย แผลเป็น หรือผิวหย่อนคล้อย เลเซอร์ฟื้นฟูผิว อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
แต่ถ้าคุณกังวลเรื่อง ปัญหาผิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น จุดด่างดำ รอยจากแสงแดด หรือเนื้อผิวไม่เรียบ และต้องการวิธีที่ ไม่รุนแรง ราคาเข้าถึงง่าย การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peel) ก็อาจเหมาะกับคุณมากกว่า
สำหรับบางคน การผสมผสานทั้งสองวิธีอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์เฉพาะตัวจากแต่ละวิธี เช่น การ ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี เพื่อแก้ปัญหาผิวชั้นตื้น และ เลเซอร์ฟื้นฟูผิว สำหรับปัญหาผิวที่ลึกกว่า
การเลือกวิธีฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์หรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีนั้น ต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงสภาพผิวและเป้าหมายความงามเฉพาะของแต่ละคน ที่ SoonPlus ศัลยกรรมตกแต่ง ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
หากคุณกำลังสงสัยว่าการรักษาแบบใดจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถนัดหมาย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของเรา ได้เลย แพทย์ศัลยกรรมของเรา รวมถึง นพ. ซุนดง คิม ผู้มีประสบการณ์ด้านเวชศาสตร์ความงามมากกว่า 17 ปี จะร่วมวางแผนดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวและความงามในแบบที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณจะต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก หรือเลือกวิธีที่อ่อนโยนกว่าในการดูแลผิว SoonPlus ศัลยกรรมตกแต่ง พร้อมช่วยให้คุณดูดีและมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น